ข้อสงสัยเรื่องแต่งงานกับผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องมีสินสอดใช่ไหม? ประภาพร หาข้อมูลการแต่งงานมาให้แล้วค่ะ) ว่าปัจจุบันนี้ไม่มีค่ะ แต่จริงๆแล้วมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น เพราะถ้าพูดกันจริงๆ... สิ่งที่เรียกว่าสินสอดมันก็มีเหมือนกัน อย่างแหวนหมั้นก็ถือเป็นสินสอดในสมัยนี้นี่แหล่ะ ^_^
จริงๆคำว่าสินสอดในภาษาญี่ปุ่นมันก็มีคือยุยโนคิน = 結納金 (ถ้่าใครจะแต่งงานกับหนุ่มญี่ปุ่นแล้วต้องการอธิบายเรื่องสินสอดก็อธิบายได้) คำว่ายุยโน (結納) เป็นพิธีการผูกสองครอบครัวไว้ด้วยกันโดยการส่งสิ่งของที่จำเป็นและเป็นมงคลเช่นกิโมโน, โอบิให้ โดยส่วนใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะเป็นฝ่ายส่งให้กับฝ่ายเจ้าสาว แต่เนื่องจากในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยได้ใช้กิโมโนหรืออะไรกันแล้ว ก็เลยส่งเป็นเงินให้แทน เงินนี้ก็คือยุยโนคิน จะว่าตรงกับคำว่าสินสอดของเราก็ได้

สินสอดที่ว่านี้ไม่ได้ถูกกำหนดแน่นอนว่าต้องประมาณเท่าไหร่ แต่หลายคนจะกะประมาณเงินเดือนของเจ้าบ่้าว 2 เดือน-3 เดือน (reasonable ว่ะ ไม่เหมือนของไทยที่นึกจะเรียกก็เรียก) ฝ่ายเจ้าสาวได้รับมาก็ไม่ใช่ทำเฉย จะต้องส่งของตอบแทนฝ่ายเจ้าบ่าวเค้าด้วย ทางคันโตจะส่งของตอบแทนที่มีมูลค่าประมาณ 50% ของจำนวนเงินที่ได้รับ (สมมติได้มาล้านเยนก็ต้องส่งของหรือเงินประมาณ 5 แสนเยนกลับไปให้) ส่วนคนคันไซงกหน่อย ได้ข่าวว่าจะส่งกันแค่ 10% ของเงินที่ได้มา (เจ้าบ่าวแถบคันไซก็อ่านบรรยากาศกันเก่งมาก ส่วนใหญ่เลยให้สินสอดไม่เยอะเท่าไหร่ ยังไงก็ได้กลับมาแค่ 10% อยู่แล้วนี่)

แต่นี่ก็ยังไม่ได้หมายความว่าแต่งกันแล้วนะ ยุยโนคือการหมั้นเฉยๆ
ทีนี้ในปัจจุบันนี้รูปแบบของการหมั้นแบบญี่ปุ่นก็ได้เปลี่ยนไป ในเมื่อยุยโนหมายถึงการผูกสองครอบครัวเข้าด้วยกัน หลายครอบครัวจึงเปลี่ยนมาเป็นการจองร้านอาหารทานข้าวด้วยกัน หรือเปลี่ยนจากของหมั้นที่ผู้ชายส่งให้ผู้หญิงเป็น “ของที่ระลึกการหมั้น” (婚約記念品) แทน


ตัวอย่างของที่ระลึกงานหมั้น...
แหวนหมั้น (婚約指輪 คงยัคขุยูบิวะ) ก็เป็นลักษณะ “ของที่ระลึกการหมั้น” อย่างหนึ่งที่ผู้ชายให้กับผู้หญิง และถึงครอบครัวหรือคู่ไหนที่ไม่ได้มีการจัดการหมั้นกันอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่อย่างน้อยผู้ชายก็จะซื้อแหวนหมั้นให้กับผู้หญิงอยู่ดี (ทว่าก็ไม่ใช่ทุกคู่ บางคู่ก็ตกลงกันว่าเราจะไม่มีแหวนหมั้นอะไรกันให้สิ้นเปลือง เพราะมันแพง) ส่วนของที่ระลึกการหมั้นที่ผู้หญิงส่งให้ผู้ชายมักจะเป็นนาฬิกาข้อมือ ราคาก็ควรจะประมาณแสน-2แสนเยน

เรามักจะได้ยินกันเสมอว่า แหวนหมั้นที่ผู้ชายญี่ปุ่นซื้อให้ผู้หญิงญี่ปุ่นนั้นควรจะมีมูลค่าประมาณเงินเดือน 3 เดือนของผู้ชาย แต่อันนั้นมันเป็นเรื่องของสมัยก่อน (เพราะสมัยก่อนเงินเดือนเฉลี่ยของผู้ชายน้อยกว่านี้มาก เงินเดือนเดือนสองเดือนก็ยังซื้อแหวนดีๆไม่ค่อยได้ สมัยนี้ส่วนใหญ่จะประมาณกลางๆ คือเงินเดือนประมาณ 1 เดือนหรือเดือนครึ่งก็พอ (ว่าใครอยากจะให้เยอะๆก็ตามใจ) ส่วนใหญ่จะซื้อแหวนเพชรที่มูลค่าประมาณ 3-4 แสนเยนเท่านั้น
วิธีซื้อแหวนหมั้นมีประมาณ 4 แบบ แล้วแต่งบและความชอบของแต่ละคู่ (ส่วนใหญ่ก็ตามใจผู้หญิง) ได้แก่
1. Ready Made : คือแหวนสำเร็จที่ออกแบบทำมาไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ไปเลือกเอาเลย เหมาะสำหรับคนเวลาไม่ค่อยมีและไม่ค่อยเรื่องมาก ไม่มีไอเดียอะไร ข้อดีก็คือได้ดูของจริงก่อนจะตกลงใจซื้อ ทว่าตัดสินใจซื้อแล้วอาจจะต้องมีการแก้ไขทำอะไรอีกนิดหน่อย ใช่ว่าซื้อปุ๊บได้ปั๊บเหมือนซื้อหัวไชเท้า กรุณาเผื่อเวลาไว้นิดนึง
2. Semi-order : กึ่งๆสั่งทำ ประมาณว่าจะมีแคตตาล็อกให้เลือกเพชรกับเลือกสไตล์แหวน แล้วเค้าจะเอามาประกอบกันให้เหมือนกันดั้ม
3. Full order : สั่งทำแหวนใหม่เลย รวมถึงให้เค้าออกแบบด้วย นี่ต้องใช้เวลาประมาณพอสมควร เพราะต้องไปนั่งคุยนั่งดูเค้าออกแบบประมาณหนึ่ง คู่เราใช้แบบนี้ อย่างบอกเค้าไปว่าเราจะแต่งกันวันคริสมาสตร์ อยากได้คอนเซ็ปของแหวนเป็นคริสมาสตร์ เค้าก็จะนั่งเสก็ตแบบแหวนออกมาเรื่อยๆ ชวนเราคุยไปด้วย สุดท้ายก็ให้เราเอากลับไปเลือกสี่ห้าแบบ โปรมาก
4. Reform : คือเอาแหวนหรือเครื่องประดับเก่าของเจ้าป้ามารีฟอร์มใหม่ให้สวยงาม เป็นวิธีที่ eco มาก บางทีแม่เจ้าบ่าวจะยกแหวนประจำตระกูลหรืออะไรอย่างนี้ให้ แต่สไตล์มันอาจจะเฉิ่มเชยไปตามยุคสมัย ร้านแหวนจะจัดการหาแบบและคุยกับเราและทำแหวนใหม่ออกมาให้ไฉไล ทันสมัยเปี๊ยบ ค่อนข้างประหยัดกว่าไปซื้อใหม่เยอะ ^_^
อนึ่ง...ภาษาอังกฤษทั้งสี่แบบนี้เป็นภาษาอังกฤษแบบญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นเค้าใช้กัน อย่าได้จำไปใช้กันมั่วล่ะ เดี๋ยวจะสื่อกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง
พูดถึงงานแต่งงานของญี่ปุ่นจะแตกต่างจากไทยประมาณหนึ่้ง เนื่องจากไม่มีเรื่องของขนบธรรมเนียมประเพณีหรือศาสนามาเกี่ยวข้องเท่าไหร่ ดังนั้นสามารถที่จะจัดการแต่งงานได้แบบฟรีสไตล์สุดๆ ส่วนใหญ่ก็จะแบ่งงานออกเป็น 3 ช่วงดังนี้
1.พิธีแต่งงานช่วงเช้า (หรือกลางวัน) อาจจะแต่งแบบญี่ปุ่นตามหลักศาสนาชินโตก็ไปจัดตามศาลเจ้า แต่งแบบคริสตร์ก็ไปจัดในโบสถ์ (บางที่ก็ไม่ใช่โบสถ์จริง คือเป็นสถานที่สำหรับจัดการแต่งงานที่จำลองโบสถ์มาเฉยๆ) ทั้งสองแบบไม่ได้เกี่ยวกับศาสนาซักเท่าไหร่ พิธีช่วงเช้านี้ส่วนใหญ่จะเชิญแต่คนในครอบครัวหรือคนสนิทกันเท่านั้น เพื่อนกันหรืออะไรอย่างนี้มักจะไปงานเลี้ยงตอนกลางคืนเลย





2. งานเลี้ยงช่วงกลางคืน : ภาษาญี่ปุ่นเรียกฮิโรเอ็ง (披露宴) จะมีการส่งบัตรเชิญไปให้แขกล่วงหน้าซึ่งแขกจะต้องตอบรับมาด้วยว่าไปได้หรือไม่ได้ การจองโรงแรมก็จะจองตามจำนวนจริง ปกติถ้าเค้าไม่ได้ระบุให้เอาเด็กไปด้วยได้ก็ไม่ควรจะเอาไปเด็ดขาด และห้ามเชิญหรือเอาใครไปเพิ่มตามสไตล์ไทยๆ หากจะแคนเซิลไม่ไปควรบอกแต่เนิ่นๆ และไม่ควรแคนเซิลนอกจากจำเป็นจริงๆ (เช่นตัวเองหรือคนในครอบครัวป่วย) เพราะเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องออกค่าอาหารต่อหัวประมาณ 1 หมื่นถึง 1 หมื่นห้าพันเยน ในกรณีที่เรามาไกล เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะเตรียมค่าเดินทางและค่าโรงแรมไว้ให้เราด้วย
การใส่ซองในงานแต่งงานก็ต้องใส่ตามความสัมพันธ์ของเรากับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ใส่ประมาณ 3 หมื่นเยน ญาติพี่น้องใส่ 5 หมื่น ถ้าเป็นญาติสนิทเช่นพ่อแม่ต้องใส่กันประมาณแสนเยนเลยทีเดียว (แต่ค่าแต่งงานพ่อแม่ไม่เกี่ยว ส่วนใหญ่เป็นเงินเก็บของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเอง แต่บางครอบครัวพ่อแม่ก็ช่วยบ้าง) ถ้าไปกันสองคนผัวเมียหรือเอาแฟนไปด้วย ต้องแยกซองกันอีกต่างหาก จะมาทำเนียนว่ามาด้วยกันไม่ได้ ถ้าใครไม่อยากให้เป็นซองก็ให้เป็นของได้ แต่ราคาก็ต้องประมาณเดียวกับที่ใส่ซองให้ (อาจจะน้อยกว่าได้นิดหน่อย)
กรณีที่เราไปไม่ได้แต่อยากจะส่งเงินไปช่วยก็ส่งประมาณครึ่งนึงหรือ 1 ใน 3 ของเงินใส่ซอง หรือจะส่งเป็นของก็ได้


ส่วนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเมื่อได้รับซองหรือของอวยพรไปแล้ว หลังงานแต่งงานก็ต้องวุ่นวายกับการส่งของตอบแทนให้กับคนที่มางานของเราด้วย ส่วนใหญ่จะส่งของตอบแทนในราคาประมาณ 1 ใน 3 ของที่ได้รับกลับไปให้ โดยมากจะเป็นพวกผ้าเช็ดตัวหรือข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป

บางคนอาจจะสงสัยว่างานแต่งงานญี่ปุ่นทำอะไรกันบ้าง โดยมากหลังจากแขกมากันพร้อมและผู้ประสานงานกล่าวเปิดแนะนำเรียบร้อยแล้วก็จะมีการชนแก้วดื่มอวยพร (คัมไป) กันก่อน มีการตัดเค้ก มีการเปลี่ยนชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เรียกว่าโออิโรนาโอฉิ (お色直し) จากนั้นก็เป็นการจุดเทียนร่วมกันของเจ้าบ่าวเจ้าสาว (แคนเดิลเซอร์วิส) แล้วก็ speech หลังจากนั้นก็เป็นช่วงอ่านจดหมายให้พ่อแม่ของแต่ละฝ่ายฟัง ส่วนใหญ่จะซาบซึ้งร้องไห้กันช่วงนี้ จบแล้วเจ้าบ่าวเจ้าสาวมอบช่อดอกไม้และของที่ระลึกให้พ่อแม่ ตัวแทนฝ่ายครอบครัวก็จะออกมากล่าวอะไรเล็กน้อย (บางทีก็เป็นตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวเอง) แขกที่มางานก็จะได้ของที่ระลึกที่เรียกว่าฮิคิเดะโมโนะกลับไปด้วย คล้ายๆของชำร่วยแต่จะออกหรูหรากว่า (บางทีจะให้เป็นกิฟท์แคตตาล็อคมา แขกก็ไปเลือกเอาเองเลยว่าอยากได้อะไร)

เป็นแค่ขั้นตอนคร่าวๆของงานแต่งงานทั่วไป บางงานก็มีการฉายวีดีโอตอนเด็กๆของเจ้าบ่าวเจ้าสาว หรือมีการแสดงที่เพื่อนๆเตรียมไว้อะไรอย่างนี้ด้วย ^_^
3. งานเลี้ยงต่อระหว่างเพื่อนฝูง (二次会 นิจิไก) : จบจากงานแต่งงานจะเป็นงานเลี้ยงแบบเป็นกันเองระหว่างเพื่อนๆของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ส่วนใหญ่จะเป็นการไปจองร้านอาหารแล้วก็เลี้ยงกัน เพื่อนบางคนก็ไม่ไปงานเลี้ยงแต่งงาน มาเฉพาะตอนงานนิจิไกเลย ว่ากันว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้เราอาจได้ปิ๊งใครได้งานนี้ เพราะเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวได้มาเจอกัน อายุก็จะประมาณไล่เลี่ยกัน ว้าว! สาวๆต้องพยายามทำตัวดูดีหน่อย (ส่วนใหญ่เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวจะมอบหมายให้เพื่อนตัวเองคนใดคนหนึ่งเป็นคนรับผิดชอบงานนิจิไก)
สำหรับชุดไปงานแต่งงานนั้น ถ้าเป็นพิธีแต่งงานก็แต่งแบบ formal หน่อย คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ผู้ชายจะใส่สูทสีดำ เนคไทสีขาว ผู้หญิงอาจจะแต่งกิโมโนสีดำและมีลวดลายสวยๆแบบเป็นพิธีการ (โอบิควรจะเป็นลายที่เป็นมงคล) หรือถ้าใส่ชุดธรรมดาก็ใส่เป็น dress หรือสูทแบบ formal ก็ได้ มักจะใส่สีดำหรือสีพื้นๆจะดูสุภาพกว่าใส่สีแจ้งแว้ง (ใส่สีดำแล้วประดับด้วยเครื่องประดับสวยๆแทน)

รวมแล้วค่าแหวนหมั้นบวกงานแต่งทั้งหมดเฉลี่ยประมาณ 5-6 ล้านเยน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่งบของคู่เรา เดี๋ยวนี้มีสถานที่รับจัดงานแต่งงานแบบราคาถูก แต่งกันง่ายๆเสียแค่ไม่กี่แสนเยนก็มี บางคนจดทะเบียนอย่างเดียวไม่จัดงานแต่งเลยก็เยอะ แล้วค่าจัดงานก็ไม่ใช่ว่าเจ้าบ่าวเป็นคนออกทั้งหมด บางทีก็ช่วยกันออกสองคนทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว บางทีเจ้าบ่าวออกค่างานแต่ง เจ้าสาวออกค่าย้ายบ้านหรือค่าเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเป็นต้น
กลับมาเรื่องแหวนหมั้นอีกที... จากแบบสอบถามสาวๆญี่ปุ่นได้ผลมาว่า สาวๆจำนวน 2 ใน 3 คนอยากได้แหวนหมั้นตอนขอแต่งงาน (คือมาพร้อมกับคำขอแต่งงานเหมือนในหนัง) แต่ในความเป็นจริงผู้ชายที่จะเตรียมแหวนเพชรมาให้ตอนขอแต่งงานมีเพียงแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น และสอบถามต่อว่าอยากให้ผู้ชายขอแต่งงานที่ไหนมากที่สุด? สาวๆ 48% บอกว่าอยากให้ขอแต่งงานในที่ที่โรแมนติกเช่นที่ที่มองเห็นวิวสวยๆตอนกลางคืน แต่ปรากฏว่ามีสาวๆแค่ 10% เท่านั้นที่สมหวัง...
ดังนั้นใครจะขอสาวญี่ปุ่นแต่งงาน อย่าลืมเตรียมแหวนเพชรไปก่อน แล้วก็อย่าลืมเตรียมคำขอแต่งงานในบรรยากาศโรแมนติกอย่างเช่นวิวกลางคืนนะคะ ^_^
ใครจะไปแต่งที่ดิสนีย์แลนด์ก็ได้นะ ^_^

ป.ล. ส่วนแหวนแต่งงานนั้น คนญี่ปุ่นก็มีการแลกแหวนแต่งงานกันเหมือนกัน แต่ถึงแต่งงานแล้วคนไม่ใส่แหวนแต่งงานก็เยอะนะ @_@; ถ้าเจอหนุ่มดีๆแต่ไม่ใส่แหวนแต่งงานก็อย่าได้ชะล่าใจไปว่าเค้ายังโสด
ศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
結納 ยุยโน การผูกสองตระกูลเข้าด้วยกัน
結納金 ยุยโนคิน เงินสินสอด
結納品 ยุยโนฮิน ของหมั้น
結婚式 เก๊กกงชิกิ งานแต่งงาน, พิธีแต่งงาน
披露宴 ฮิโรเอ็ง งานเลี้ยงแต่งงาน
二次会 นิจิไก งานเลี้ยงหลังแต่งงาน
お色直し โออิโรนาโอฉิ การเปลี่ยนชุดของเจ้าบ่าวเจ้าสาว
引き出物 ฮิคิเดะโมโนะ ของที่ระลึกให้แขกที่มางาน
新郎 ชินโร เจ้าบ่าว
新婦 ชินปุ เจ้าสาว
仲人 นาโคโดะ พ่อสื่อแม่สื่อ, ผู้ประสานงาน
婚約 คงยัคขุ การหมั้น
婚約指輪 คงยัคขุยูบิวะ แหวนหมั้น
結婚指輪 เก๊กกงยูบิวะ แหวนแต่งงาน